เมื่อวันที่ 11 กันยาที่ผ่านมา Apple ได้มีการประกาศถึงผลิตภัณฑ์ใหม่คือเจ้า Apple Watch ซึ่งก็ทำเอาผู้สันทัดกรณีทางด้านข่าวลือและภาพหลุดหงายเงิบไปตามๆกัน เพราะหน้าตาที่ออกมา ไม่ได้ใกล้เคียงกับที่ผู้สันทัดกรณีทั้งหลายวาดภาพเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
แต่ยังไงก็ตาม สำหรับความสามารถหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้รักสุขภาพทั้งหลายนั้น ก็ไม่ได้ผิดไปซักเท่าไร
ส่วนว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้างนั้น ขออนุญาตเพื่อนๆแวะเข้าไปดูเอาที่นี่เองนะครับ –> http://www.apple.com/watch/features/ ฮาาาา แต่จะขอชวนคุยแค่ฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับนักปั่นจักรยานเท่านั้นครับ
ถ้าจะดูจากรูปที่ผมเอามาแปะไว้ให้ดูด้านบนนี้ ก็จะเห็นตัว Sensor อยู่ด้านหลังตัวเครื่องครับ ซึ่งเจ้า Sensor ตัวนี้ก็คือ Heart Rate sensor นั่นเอง นั่นก็แปลว่า สำหรับคนที่มีเจ้า Apple Watch ตัวนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เจ้า Sensor แบบคาดอกเหมือนก่อนแล้ว
แต่ก็นั่นล่ะครับ สำหรับนักปั่นจักรยานแล้ว สิ่งที่นักปั่นจักรยานต้องการ ไม่ใช่จะต้องการแค่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจเท่านั้นจริงไหมครับ ถ้าจะนับเรื่องการวัดแล้ว นักปั่นจักรยานเขาวัดกันตั้งหลายอย่างทีเดียว
อย่างแรกก็วัดรอบขา หรือ Cadence วัดความเร็ว หาตำแหน่ง GPS ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆพวกนี้มีทั้งแบบที่ต้องเชื่อมต่อผ่าน ANT+ และที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และแน่นอน สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับแค่ ANT+ นั่นก็ลืมไปได้เลยครับ เชื่อมต่อกันไม่ได้แน่ๆ ถ้าเป็น Bluetooth ยังพอคุยกันได้หน่อย แต่ก็อีกนั่นล่ะ การเชื่อมต่ออุปกรณ์สำหรับจักรยานต่างๆพวกนี้ ก็ต้องเชื่อมต่อผ่านทางด้าน iPhone อยู่ดี
ถ้ามองอย่างนี้แล้ว เจ้า Apple Watch นี่ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์สำหรับนักปั่นจักรยานที่เป็น “ขาแรง” หรือ “Pro” ทั้งหลายแน่ๆครับ เพราะถ้าเราจะวัดถึงความสามารถที่ตอบสนองพวกเขาเหล่านั้นได้ ก็น่าจะเป็นพวก Garmin รุ่นโปรๆซะมากกว่า (รุ่นไหนบ้างก็ไม่ค่อยรู้ล่ะครับ เพราะผมก็ไม่โปร ฮ่า ฮ่า)
สำหรับผมเอง คิดว่า Apple ก็รู้เรื่องนี้ดีครับ ว่าคงไม่สามารถไปแข่งขันกับพวกนั้นได้ แต่ Apple คงวาง Position Apple Watch ไว้อีกที่นึง ซึ่ง Position นั้น ถ้าจะมีนักปั่นจักรยานเข้าไปรวมอยู่ด้วย ก็น่าจะเป็นพวก “ขาอ่อน” อย่างผมเนี่ยล่ะ คือไม่ได้ซีเรียสกับค่าอะไรมากมายนัก และส่วนมากก็ใช้ Strava เป็นหลัก ซึ่งในนั้นก็จะบอกทั้งความเร็ว บอกแคลอรี่ที่ใช้ไป เก็บข้อมูล GPS ให้ด้วย อวดเพื่อนได้ด้วย ถ้าอยากจะให้มันบอกรอบขาด้วย ก็ติดตั้งอุปกรณ์เข้าไปเพิ่มหน่อย สนนราคาก็อยู่หลักสองสามพัน ก็พอจะซื้อได้ครับ
และถ้าจะลองเดาต่อว่า apple จะเดินยังไง ให้สามารถชี้ชวนให้พวกนักปั่นจักรยานขาอ่อน ที่ใช้ iPhone กับ Application อย่าง Strava จะตัดสินใจเลือกเจ้า Apple Watch ให้มาเป็นเพื่อนของนักปั่นจักรยานแล้วล่ะก็ พวก Application ต่างๆเหล่านี้ล่ะครับ จะเป็นเครื่องช่วยกระตุ้น พวก Strava, Runtastic ฯลฯ ทั้งหลายในกลุ่ม application สำหรับนักปั่นจักรยาน ก็จะต้องพัฒนาฟีเจอร์ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่จะสามารถใช้ Apple Watch ให้จูงใจนักปั่นจักรยานให้ได้ และผมก็ยังเชื่อว่า Apple กับ App Vendor เหล่านั้นจะทำได้ในที่สุด
อีกอย่างหนึ่งในมุมมองและสมองอันน้อยนิดของผม Apple Watch ก็ Position ตัวเองเป็นเครื่องประดับ เป็น Accessories เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่จะตอบสนอง Want ของผู้บริโภคอยู่แล้ว ซึ่งในนั้นก็รวมเอานั่งปั่นจักรยานส่วนมากเข้าไปด้วยครับ
เชื่อสิ แม้ Apple Watch จะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนักปั่นจักรยาน แต่นักปั่นจักรยานส่วนมากที่ใช้ iPhone อยู่แล้ว จะเป็นลูกค้าที่ดีของ Apple Inc. อย่างแน่นอนครับ เชื่อผมสิ
