ตอนที่ผมเริ่มมีความคิดว่าจะปั่นจักรยานไปทำงาน ก็ต้องเริ่มคิดว่า แล้วจะเลือกจักรยานแบบไหนล่ะ ที่เราจะซื้อและใช้มันในการเดินทาง โดยเริ่มจากการถามผู้รู้ เข้าเว็บบอร์ด หาข้อมูล เสียงส่วนใหญ่ก็มักจะบอกว่า สำหรับมือใหม่ให้เริ่มจากเสือภูเขา แล้วผมก็ไปร้านจักรยานดูไว้สองสามรุ่น แต่พอไปเห็นจักรยานเฟรมสวยๆ แบบอื่น ผมก็เริ่มจะเอนเอียง สุดท้ายก็เดินกลับไปร้านจักรยานอีกครั้ง แล้วก็พบว่า ตัวเลือกของผมที่เลือกไว้เป็นแบบเสือภูเขานั้น มันถูกแทนที่ด้วยจักรยานที่เรียกว่า Hybrid เสียแล้ว และมันก็เป็นจักรยานที่ผมใช้มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้บทความวันนี้ ก็เลยจะช่วยมือใหม่ที่กำลังตัดสินใจ ว่าจะเลือกจักรยานแบบไหนดี ในการที่จะปั่นไปทำงาน มาดูกันครับ
1. Cruiser ดูน่ารักฟุ้งฟิ้งดีเลยครับ แถมยังให้ความรู้สึกนุ่มนวลสบายเวลาที่ปั่น มีที่บังโซ่มาให้ด้วย แต่ข้อเสียของมันก็คือ มันบังคับไม่ค่อยดี แถมถ้าจะขึ้นเนิน ขึ้นสะพาน อันนี้มีหอบแน่ๆ แม้รุ่นใหม่ๆจะมีเกียร์มาด้วย แต่ส่วนมากก็จะเป็นเกียร์ราคาถูกๆ คุณภาพไม่ดีนัก
2. Cyclocross ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่ามันเป็นจักรยานแข่ง Cross Country แต่โดยทั่วไปจักรยานพวกนี้ก็จะน้ำหนักเบา แถมยังสามารถลุยได้ทุกสภาพถนน แต่ข้อเสียของมันก็คือราคามันแพง แถมบางทีมันอาจจะเกินจากความต้องการของเราไปหน่อย ถ้าเราไม่ใช่นายอำเภอหรือปลัดที่จะต้องปั่นทั้งบนถนนคอนกรีต ลาดยาง ลูกรัง ไปเยี่ยมชาวบ้านที่ห่างตัวอำเภอไปอีก 30 กิโล ฮาาา
3. Recumbent เรียกว่าเป็น “รถนอน” เลยก็ได้ ดูจากรูป คนปั่นนี่แทบจะนอนเลยครับ เพราะงั้นรถแบบนี้ก็คงจะเหมาะกับคนที่มีปัญหากับหลัง เนื่องจากจักรยานมันเป็นแบบนอนๆอย่างนี้จุดศูนย์ถ่วงเลยต่ำ ล้มยาก แต่ก็จะมีข้อเสียว่า รถคันอื่นเขาจะมองไม่เห็นเอา เพราะมันเล็ก มันเตี้ย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ แถมส่วนมาก ราคาก็ยังจะแพงอีกด้วยนะเออ
4. Folding หรือจักรยานพับ ก็จะมีล้อที่เล็ก แถมยังพับเก็บเหลือเล็กนิดเดียว ถือขึ้นรถเมล์รถไฟฟ้าได้ ถึงที่ทำงานแล้วก็พับเอาไปเก็บไว้ใต้เก้าอี้ที่ทำงานได้ ข้อเสียที่อาจจะเป็นไปได้ก็คือ ก็จะมองเห็นได้ยากจากคนขับรถบนถนนคนอื่นๆ แถวบางรุ่นทั่วไปก็อาจจะปั่นได้ช้า (แต่ผมตามบางคนไม่ทันจริงๆ แม้เขาจะปั่นจักรยานพับ บางทีมันอยู่ที่กำลังขานะผมว่า ฮาา)
5. Hybrid มันเป็นจักรยานลูกผสมระหว่างเสือหมอบกับเสือภูเขา แฮนด์ตรง บางทีมีดิสค์เบรค ซึ่งมันไม่เหมาะที่จะเอาไปปั่นแข่ง แต่มันก็น่าจะเหมาะที่จะปั่นไปทำงานได้ดีทีเดียว ซึ่งเป็นแบบที่ผมใช้ปั่นไปทำงานอยู่ทุกวัน เพราะมีอยู่คันเดียว
6. Mountain bike จะมีโช็คอัพครับ ล้อก็จะใหญ่ เหมาะกับถนนกรุงเทพมาก เพราะสามารถเอาตัวรอดจากตะแกรงเหล็กฝาท่อได้ ข้อเสียก็คือต้องใช้แรงเยอะหน่อย เพราะหนัก แต่ก็น่าจะเหมาะกับคนที่อยากเผาผลาญพลังงานระหว่างปั่นไปทำงานมากเป็นพิเศษ
7. Road Bike หรือจักรยานเสือหมอบ เจ้าความเร็วบนถนนเลยล่ะครับ เพราะน้ำหนักจะเบา และเกียร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำความเร็วโดยเฉพาะ แต่บางทีก็อาจจะแพงกว่าถ้าเทียบกับเสือภูเขาหรือ Hybrid และถ้าจะปั่นไปทำงานทุกๆวัน ก็อาจจะมีค่าบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นตามมาด้วย
8. Fixie หรือฟิกซ์เกียร์นั่นล่ะครับ ข้อดีคือมัน Simple ไม่มีอะไรซับซ้อน ล้อหมุน บันไดก็หมุน แต่ข้อเสียคือมันต้องการกำลังขาที่สูงมาก ถ้าจะต้องปั่นขึ้นเนินลงสะพาน หรือเจอลมแรงๆ แต่ถ้าขาแรงพอก็น่าจะเอาอยู่ละ่ครับ ผมเห็นปั่นร่วมทางอยู่หลายคันเหมือนกัน แถมเผลอเมื่อไรเป็นเห็นหลังไวๆทุกที
9. Touring เป็นจักรยานที่เหมาะสำหรับการปั่นทางไกลๆ แถมยังสามารถขนสัมภาระได้ด้วย ดูแล้วก็น่าจะเหมาะที่จะปั่นไปทำงานครับ เพราะต้องมีเสื้อผ้า เครื่องอาบน้ำ รองเท้า ฯลฯ แต่ข้อเสียของมันก็คือ ราคามันก็อาจจะแพงหน่อยครับ
10. BMX บอกเลยว่ามันไม่ใช่จักรยานที่จะใช้ปั่นไปทำงานครับ มันจะทำให้เราปวดเข่า อายุมากๆแล้วนี่ไม่น่าจะไหว (ตอนเด็กๆเคยปั่นได้ ปั่นไปโรงเรียน ตอนนี้ปั่นไม่ได้แล้ว) ข้อเสียอีกอย่างคือ มันเล็ก เตี้ย ทำให้มองเห็นได้ยากจากคนขับรถยนต์อื่นๆบนถนน ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายได้
11. จักรยานไฟฟ้า เป็นจักรยานที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าครับ ไว้ใช้เวลาขึ้นเขา หรือเจอลมแรงๆ หรือตอนขี้เกียจจะปั่น แต่ข้อเสียของมันก็คือ มันแพงครับ
ผมยังมีอีก 1 ประเภทครับ เป็นประเภทพิเศษเลยก็ว่าได้ รูปเป็นแบบนี้ครับ
แบบนี้เขาเรียกว่า Olde-Tyme ครับ จักรยานโบราณนั้นล่ะ มีข้อดีเยอะนะเออ ล้อใหญ่อย่างนี้ปั่นได้ความเร็วสูงมากๆ แถมสามารถมีมุมมองที่เหมือนรถสิบล้อเลยล่ะ แถมปั่นไปไหนรับรอง รุ่นใหม่ล่าสุดเฟรมคาร์บอนคนก็ยังไม่มองเท่าถ้าปั่นจักรยานแบบนี้บนถนนนะครับ แต่ข้อเสียมันก็มีนะครับ มันไม่มีเบรคครับ ว่าแต่มันยังจะเป็นตัวเลือกให้เราอยู่อีกหรือเนี่ย
หากเพื่อนๆกำลังมองหาจักรยานคันแรก หรือคันที่สองหรือสามสี่ก็แล้วแต่ ที่จะใช้ในการที่จะปั่นไปทำงานแล้วล่ะก็ ผมหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนบ้าง ในการที่จะพิจารณาเลือกจักรยานให้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะที่มีใครที่อยากให้ “ทุกคนเหลียวหลัง” แล้วล่ะก็ ประเภทสุดท้ายสามารถช่วยเพื่อนๆได้ ว่าแต่ จะไปหาซื้อที่ได้ได้เท่านั้นเองครับ