» » เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

posted in: Daily ride | 0

บทความของ Bangkok Bike Rider หายไปจากวงการการปั่นจักรยานไปทำงานร่วมหกเดือน บอกตามตรงครับ ที่หายไปนั่นน่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี เกือบร้อยกว่าบทความที่เขียน วนกลับไปอ่านซ้ำอีกรอบ ก็แทบจะหมดครบทุกเรื่องแล้วเกี่ยวกับการปั่นจักรยานไปทำงาน

แต่ถึงแม้ว่าบทความจะห่างหายหน้าไป ตัวกระผมเอง ก็ไม่ได้หยุดปั่นจักรยานนะครับ ยังตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวเป็น Bike to work outfit ออกปั่นจักรยานตามเส้นทางเดิมบ้างใหม่บ้างไปทำงานอยู่เกือบทุกวัน วันไหนทำงานเลิกดึกหน่อยก็มีต้องจอดจักรยานทิ้งไว้ที่ทำงานบ้าง มีบางทีไปต่างประเทศหลายวัน ก็มีเอาขึ้นไปไว้บนห้องทำงานบ้าง นัยว่าให้ช่วยดูแลลูกน้องแทนในระหว่างที่ไม่อยู่

แต่ก็มีช่วงหนึ่งเหมือนกันครับ ที่ไม่ได้ปั่นเลย เพราะปั่นไม่ได้ ด้วยเพราะเกิดอุบัติเหตุตีลังกาม้วนหน้า แล้วก็เอามือค้ำยันตัวไว้ หัวเข่าถลอกนิดหน่อย แล้วจับจักรยานขึ้นปั่นต่อไปจนถึงที่ทำงาน วันรุ่งขึ้นก็ปั่นไปอีก พอวันที่สามไม่ไหวล่ะ เจ็บข้อมือมาก ต้องหยุดปั่น กะว่าซักสัปดาห์หนึ่งก็คงจะหาย แต่พอครบสัปดาห์ ยิ่งเจ็บหนักขึ้น จนต้องไปหาหมอ หมอก็จับ x-ray เลยครับ ปรากฏอาการชัดว่า กระดูกตรงข้อมือแตกนิดหน่อย แล้วก็อักเสบ และหมอก็เข้าเฝือกอ่อนให้ แล้วแจ้งผมให้ทราบว่า ต้องใส่ไว้อย่างน้อยหกสัปดาห์ เป็นอันว่าต้องหยุดปั่นไปร่วมสองเดือน

ระหว่างที่หยุดปั่นไปสองเดือนนั้น เพื่อนเก่าก็กลับมาหาครับ “น้ำหนัก” เหอเหอ สองเดือนน่าจะ 7 กก. เห็นจะได้ อะไรจะไขนหนาดน๊าน

 

วันนี้ปั่นจักรยานตากฝนตอนขากลับ ยามฝนตกเนี่ย รถจะติดมากใช่ไหมครับ ติดเป็นแพเลย เห็นแล้วก็สงสาร ผมก็ใส่เสื้อกันฝนตัวบางๆซื้อจากร้านเซเว่น ไม่ได้กันอะไรได้หรอกครับ ขอแค่กันกระเป๋าที่เอาสัมภาระสำคัญเช่นกระเป๋าสตางค์โทรศัพท์มือถือจากน้ำฝนได้ก็เท่านั้น มองดูรอบข้าง รถยนต์ ผู้คน ก็ให้นึกย้อนไปถึงบรรยากาศการปั่นจักรยานในฤดูต่างๆ เออ เราก็ปั่นจักรยานไปทำงานมาในทุกสภาพอากาศของประเทศไทยเหมือนกันน๊อ เริ่มตั้งแต่วันแรกในหน้าหนาว ผ่านมาหน้าร้อน ผ่านหน้าฝน จนหน้าหนาว มาหน้าร้อน แล้วตอนนี้ก็มาหน้าฝนอีกรอบหนึ่งแล้ว หนาวหน้าในอีกไม่กี่เดือนนี้ ผมก็จะปั่นจักรยานไปทำงานมาครบสองปีแล้ว และตอนปั่นจักรยาน เพื่อนๆลองดูนะครับ มุมมองของเราตอนปั่นจักรยานนั้น อยู่สูงกว่ารถเก๋งและมอไซต์นะครับ ไม่นับพวกรถตู้ SUV หรือรถเมล์ รถบรรทุก มุมมองแบบนี้ทำให้บางทีเราก็ได้เห็นอะไรในมุมมองที่แตกต่างจากผู้คนอื่นๆบนท้องถนนด้วยเช่นกัน วันนี้ก็เลยอยากจะเขียนถึงบรรยากาศการปั่นจักรยานในแต่ละหน้า(ฤดู) ว่ามีอะไรติดตรึงใจผมอยู่บ้าง

 

หน้าร้อน

เพื่อนๆคิดถึงอะไรกันบ้างครับในหน้าร้อน ผมคิดถึงแดดครับ แดดตอนหกโมงเช้าเนี่ยก็แรงเอาเรื่องแล้วครับ รวมถึงแดดตอนหกโมงเย็นตอนปั่นกลับด้วยเช่นกัน ไม่นับถ้าจะต้องปั่นช่วงสายหรือบ่าย ต้องบอกว่าสุดๆ แต่แดดก็ใช่ว่าจะมีแต่ความร้อนแรงแผดเผานะครับ แดดในหน้าร้อน บางทีมันก็มีสีสันที่น่าประทับใจ อย่างรูปนี้ ผมถ่ายตอนช่วงปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ปั่นจักรยานผ่านเข้าไปในรั้วจุฬาฯ แวะไปดูตึกคณะ ไปดูห้องชมรม ดูต้นจามจุรี ผ่านสนามรักบี้หน้าพระรูปฯ ก่อนจะออกประตูใหญ่ ผมหันกลับมามองทางหอประชุม สิ่งที่เห็นคือสีของแดดในช่วงค่ำที่สวยมากๆ เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ลองดูสิครับ แดดสีสวยพอจะให้อภัยเขาไหมครับ

IMG_3626

 

 

หน้าฝน

แม้หน้าร้อนจะมีแดดที่ร้อน เหงื่อออกมาก แต่ก็ไม่สกปรกครับ การปั่นจักรยานในหน้าฝนเนี่ย ทั้งแฉะ ทั้งสกปรก เสื้อกางเกงรองเท้าเนี่ย เละเทะไปหมด แต่ข้อดีของหน้าฝนก็คือความเย็นฉ่ำ และข้อดีของการปั่นจักรยานไปทำงานในหน้าฝนก็คือ รถไม่ติดครับ ใครๆเขาก็ว่าฝนตกรถติด แต่ฝนตกจักรยานไม่ติดด้วย คนอื่นเขาอยู่บนถนนกันเพิ่มจากปกติยามฝนตกกันสองสามชั่วโมง แต่จักรยานก็แค่ปั่นช้าลงหน่อย มีจอดเก็บของใส่เสื้อกันฝนบ้าง แต่เวลาที่เพิ่มขึ้นตอนฝนตกของคนปั่นจักรยานไปทำงานจะเพียงแค่อย่างมากไม่เกิน 20 นาที และอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบคือการปั่นจักรยานไปร้องเพลงไปตอนที่ฝนตกหนักๆครับ แหกปากไปเลยครับ ไม่มีใครได้ยิน เท่ไม๊ล่ะครับ ยังกะเป็นพระเอกมิวสิควีดีโอเลยทีเดียว

ภาพข้างล่างนี้ผมถ่ายวันนี้เองครับ ฝนตกพรำๆ ผู้คนกางร่มกัน ผมชิลๆ

FullSizeRender-2

 

หน้าหนาว

IMG_3444

หน้าหนาวนอกจากอากาศจะดีแล้ว ฟ้ายังสวยครับ ภาพนี้ผมถ่ายตอนเช้าหกโมงครึ่ง ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่ขึ้นมาพ้นยอดต้นธูป เมฆเป็นปุยๆสีส้ม เพลินตาดีนักแล

อีกอย่างที่ผมชอบคือการที่ลมในหน้าหนาวปะทะหน้าตอนปั่นจักรยาน มันสดชื่นมากๆครับ เย็นไปถึงใบหู นักขับมอไซต์ทั้งหลายไม่รู้จะชอบเหมือนผมหรือเปล่า แต่สำหรับท่านๆที่ขับรถยนต์ก็คงจะไม่ได้สัมผัสแบบนี้หรอกกระมัง

 

นอกจากสีสันของในแต่ละฤดูแล้ว เสียงก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างกัน เสียงของลม เสียงสองสายฝน เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เสียงใบไม้ เสียงจอแจของนก เสียงของผู้คน หรือแม้แต่เสียงของเครื่องยนต์ทั้งรถยนต์มอไซต์ มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนปั่นจักรยานไปทำงานอย่างผมจะได้ซึบซับ น่าฟังบ้าง หงุดหงิดบ้าง พลั่นพรึงบ้าง มันก็ทำให้ชีวิตมีรสชาติดีอยู่เหมือนกันนะครับ

 

จุดเริ่มต้นการปั่นจักรยานในหน้าหนาวเมื่อเกือบสองปีก่อนของผมนั้น เริ่มจากการที่มัน “จำเป็น” ที่จะต้องทำ จะต้องออกกำลังกาย ร่างกายเรียกร้องแล้วที่ต้องออกกำลังกาย แต่เมื่อได้ปั่น และได้ซึมซับความรื่นรมย์จากการปั่นจักรยานบนท้องถนน จะเรียกให้เท่ตามสมัยนิยมก็คงจะเรียกได้ว่า Slow life ค่อยปั่นค่อยไป ยังไงก็ทัน ทำให้ถึงตอนนี้ การปั่นจักรยานไปทำงานของผมนั้นได้กลายเป็นสิ่งที่ “อยากทำ” ไปเสียแล้วครับ

แม้อากาศจะเปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ผมก็ยังคงปั่นจักรยานไปทำงานอยู่ทุกวันและจะปั่นต่อๆไปครับ (แต่บทความนั้นไม่นับรวมด้วยนะ)

 

 

ถ้าชอบใจ Share เล๊ย
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Comments

comments